วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ไข่อีสเตอร์ กับความเชื่อทั้งเรื่องการกำเนิดใหม่และคู่ชีวิตในอนาคต


"ไข่" เป็นส่วนหนึ่งของสรีระเพศหญิง และยังเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติให้ไว้แก่มนุษย์เรา และสรรพสัตว์อีกหลายสายพันธ์ ตัวอ่อนจะฝังตัวอยู่ในรังไข่และถูกห่อหุ้มด้วยของเหลวภายใต้เปลือกหนาที่ช่วยคุ้มครอง "ชีวิต" ในไข่เอาไว้ สิ่งมีชีวิตมากมายล้วนมีที่มากำเนิดจากไข่หรือรังไข่นั่นเอง

         คำถามเก่าแก่ไม่มีวันจบที่ว่านี้คือ "ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน?" บอกถึงที่มาของไข่ที่แฝงอยู่ในเทพนิยายมหัศจรรย์และนิทานหลายเรื่อง ไข่จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งกำเนิดชีวิตที่มีอยู่ในหลายๆ ความเชื่อทั่วโลก และสิ่งหนึ่งที่เห็นพ้องต้องกันคือ ไข่เป็นตัวแทนหรือเครื่องหมายแห่ง "ความโชคดี" ในทุกๆ ความเชื่อและทุกวัฒนธรรม การระบายสีบนเปลือกไข่ในพิธีฉลองเทศกาลอีสเตอร์ คือประเพณีเก่าแก่ที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับไข่ในวัฒนธรรมแบบตะวันตก อาจเป็นเพราะไข่สงบนิ่งด้วยการหลับใหล และเปลือกปริแตกออกเพื่อนำไปสู่การมีชีวิตใหม่ ไข่ในเทศกาลอีสเตอร์จึงเป็นการแสดงถึงการกำเนิดใหม่ของพระเยซู

         
        ธรรมเนียมเกี่ยวกับไข่อีสเตอร์มีที่มาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับ มารี แมกดาลีน เธอได้นำตะกร้าใส่ไข่ไปให้แก่ทหารโรมันอย่างทุกข์เวทนาเพื่อให้ทหารเหล่านั้นลดการกระทำอันเหี้ยมโหดต่อพระองค์ จนกระทั่งน้ำตาของเธอได้หยดลงบนไข่ในตะกร้า ปาฏิหาริย์ก็ได้บังเกิดขึ้น ทำให้เปลือกไข่กลายเป็นมีสีสันสวยงาม ในประเทศยุโรปบางแห่งอาจไม่นิยมระบายสีไข่อีสเตอร์หลายสี แต่จะระบายด้วยสีแดงสีเดียว เป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระโลหิตของพระเจ้า    ในศาสนายูดาย (เป็นศาสนาเก่าแก่ของชาวยิว) ไข่ได้ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมสำคัญของชาวยิว คือ เทศกาลแพสโอเวอร์" หรือที่รู้จักกันในแถบยุโรปว่า "เทศกาลปัสกา" ซึ่งจะเป็นการที่ชาวยิวนำไข่มาต้มจนแข็ง แล้วจุ่มลงในน้ำเกลือแล้วนำมาต้มใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ไข่แดงข้างในแข็งตัว ว่ากันว่า การทำแบบนี้เป็ฯการเตือนให้รำลึกถึงไข่ที่เป็นตัวแทนของการกำเนิดชีวิตใหม่จากน้ำตาที่หลังไหลของทาสชาวฮีบรูในอียิปต์

        ในประเทศจีน หากครอบครัวใดมีทารกเกิดใหม่ ก็จะมีการป่าวประกาศเพื่อแสดงถึงความยินดีต่อเพื่อนบ้าน พวกเขาจะนิยมต้มไข่แดงเพื่อนำมาเลี้ยงฉลอง การที่ไข่ถูกย้อมเป็นสีแดง เป็นความหมายถึงชีวิตใหม่ที่ได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว.....ในทางตรงข้ามกัน ก็มีความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับไข่ เช่น ชาวญี่ปุ่นเชื่อถือในโชคลางว่า ถ้าผู้หญิงก้าวเท้าข้ามเปลือกไข่เป็นสิ่งที่ไม่ดี และผู้หญิงคนนั้นก็จะกลายเป็นบ้า ในขณะที่หลายๆ ประเทศทางตะวันออก กลับมีความเชื่อแปลกๆ ว่า ถ้าคุณต้องการรู้ว่าใครคือคู่รักคู่ชีวิตของคุณ ให้ลองต้มไข่จนสุกแล้วกะเทาะเอาไข่แดงออก จากนั้นให้เติมช่องตรงกลางไข่ด้วยเกลือ แล้วทานไข่ใบนั้นในมื้อค่ำ เชื่อกันว่า ในคืนนั้นคุณจะฝันเห็นคนรักในอนาคต!! ...............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น