คนแรกคือ M. François HOLLANDE จากพรรคฝ่ายซ้าย Parti Socialiste,
M. Jean-Luc MÉLENCHON จากพรรคฝ่ายซ้าย Front de gauche ซึ่งมีความเป็นซ้ายมากกว่า Parti Socialiste,
M. Jacques CHEMINADE จากพรรค Solidarité et Progrès (S&P),
M. Nicolas SARKOZY จากพรรคฝ่ายขวา Union pour un mouvement populaire (UMP)
Mme Marine LE PEN จากพรรคฝ่ายขวาจัด Front national.,
Mme Nathalie ARTHAUD จากพรรคกรรมกรฝ่ายซ้ายจัด Lutte ouvrière (LO),
M. Philippe POUTOU จากพรรคฝ่ายซ้ายจัด Nouveau Parti anticapitaliste,
M. François BAYROUจากพรรคกลาง Mouvement démocrate (MoDem),
Mme Eva JOLY จากพรรคกรีน Primaire présidentielle écologiste de 2011.
และ M. Nicolas DUPONT-AIGNAN จากพรรคนิยมชาร์ล เดอ โกล Debout La République (DLR)
ประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้ง แต่ประชาธิปไตยก็ขาดการเลือกตั้งไม่ได้ การเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญกับประชาชนในประเทศโดยเฉพาะในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูงอย่างฝรั่งเศสประชาชนทุกคนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างกระตือรือร้นในการใช้สิทธิใช้เสียงเสมือนเป็นส่วนหนึ่งผู้ได้รับประโยชน์จากการเลือกตั้ง รวมถึงสื่อต่างๆไม่ว่าข่าวคราวในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในช่วงสองสามเดือนนี้ และรายการโทรทัศน์ในฝรั่งเศสต้องมีพื้นที่ไว้ให้แคมเปญผู้สมัครแต่ละคนออกมาดีเบตทางความคิดและโฆษณานโยบายของแต่ละผู้สมัคร ส่วนผู้สมัครเองก็ต้องทำงานอย่างหนักตระเวนออกไปหาเสียงเคาะประตูถึงบ้าน ในทุกๆเขตของHexagon หรือตามหมู่เกาะนอกอาณาเขตของฝรั่งเศส DOM, TOM เพราะทุกคะแนนเสียงมีค่าและไม่ได้มาจากมือที่มองไม่เห็นหรือราชรถมาเสยถึงบ้าน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นการเลือกตั้งสองรอบ โดยประชาชนมีสิทธิในการโหวตคนละหนึ่งคะแนนเสียง ซึ่งภายในรอบแรกจะเลือกตั้งในวันที่ 22เมษายนที่จะถึงนี้ เมื่อผลที่ได้มาแล้วจะนำเอาเฉพาะผู้สมัครสองคนที่ได้เสียงมากสุด มาทำการเลือกตั้งครั้งที่สองในวันที่ 6พฤษภาคม ซึ่งในขณะนี้ทางการฝรั่งเศสได้เริ่มเปิดโอกาสให้ประชาชนฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมาเลือกตั้งได้แล้ว การเลือกตั้งก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างบ้านเรา ปีนี้ทางการเปิดโอกาสให้โหวตเสียงผ่านทางอินเตอร์เนตเป็นครั้งแรก หรือสามารถไปคูหาเลือกตั้งที่มีอยู่783แห่ง โดยนำเอกสารแสดงตัวตนไปอย่างใดอย่างหนึ่งเช่น พาสปอร์ต บัตรประชาชน เป็นต้น โดยไม่ต้องทำหนังสือแจ้งความจำนงกับทางการว่าจะเลือกตั้งก่อนแต่อย่างใด