วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

พืชสมุนไพร ประเภท ยาบำรุงกำลัง


กฤษณา


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eagle Wood, Aquilaria crassna Pierre ex H. Lee

ชื่อวงศ์ : THYMELAEACEAE


รูปลักษณะ : กฤษณา เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ลำต้นตรง เปลือกเรียบสีเทา เนื้อไม้อ่อนสีขาว ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปวงรีแกมขอบขนาน กว้างประมาณ 6 ซม.ยาว 12 ซม. ผิวเป็นมัน ดอกช่อ ออกเป็นช่อเล็กๆ ที่ซอกใบและปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาวแกมเขียว ผลแห้ง รูปวงรี เปลือกแข็ง มีขนสีเทา เมื่อแก่จะแตก กลีบเลี้ยงเจริญติดอยู่กับผล


สรรพคุณของ กฤษณา : แก่น แก่นไม้กฤษณาที่มีสีดำและมีกลิ่นหอม ใช้ผสมยาหอม แก้อ่อนเพลียบำรุงกำลัง แก้ลมวิงเวียนศีรษะ คุมธาตุ บำรุงโลหิตและหัวใจ อาเจียน ท้องร่วง แก้ไข้ต่างๆ บำบัดโรคปวดบวมตามข้อ ปัจจุบันนี้ หาเนื้อไม้กฤษณาเพื่อใช้ทำยายากขึ้น และมีราคาแพง




Eaglewood


Scientific name: Eagle Wood, Aquilaria crassna Pierre ex H. Lee.

Family name: THYMELAEACEAE.


Image Description: Agarwood trees are 10-15 m high, the stem bark is smooth and gray. Soft white wood oval leaves are alternate, oblong scams about 6 cm long and 12 cm wide skin as it flowers into a bouquet of little buds. Axillary and terminal branches. The small flowers. The dried petals greenish white oval hard shell with gray hair on the break. Calyx attached to the boom.


Properties of Bahadur: Agarwood core with black and smell the drug aroma is weak tonic. The wind, dizziness, vomiting, diarrhea, and heart blood tonic Cumtatu fever and pain therapy according to nowadays to find wood species used to make drugs more difficult and expensive.

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

พืชดัดแปลงพันธุกรรม(GMOs – Genetically Modified Organisms)

พืชดัดแปลงพันธุกรรม คือพืชที่ผ่านกระบวนการทางพันธุวิศวกรรม เพื่อให้มีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่จำเพาะเจาะจงตามต้องการ เช่น มีความต้านทานต่อแมลงศัตรูพืช คงทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือมีการเพิ่มขึ้นของสารโภชนาการหรือชีวโมเลกุลบางชนิด เช่น วิตามิน โปรตีน ไขมัน เป็นต้น พืชดัดแปลงพันธุกรรมถือเป็นสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมหรือจี เอ็ม โอ (GMOs – Genetically Modified Organisms) ประเภทหนึ่ง


พืชดัดแปลงพันธุกรรมกับความปลอดภัยการพิจารณาว่าจี เอ็ม โอ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และ/หรือ สิ่งแวดล้อมนั้นจะต้องผ่านการทดลองหลายด้านเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและมีบทบาท ในสิ่งแวดล้อมต่างๆกันไป และก่อนที่ผู้ผลิตรายใดจะนำเอาจี เอ็ม โอ หรือผลผลิตจากจี เอ็ม โอแต่ละชนิดออกสู่ผู้บริโภคนั้น จะต้องได้รับการประเมินความปลอดภัยจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องอาศัยผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละสาขาวิชาเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันที่มีอยู่แล้วในธรรรมชาติ ดังนั้นจึงถือได้ว่าผลิตพันฑ์จี เอ็ม โอ ทุกชนิด ทั้งที่นำมาเป็นอาหาร หรือที่นำมาปลูกเพื่อจำหน่ายในทางพาณิชย์มีความปลอดภัยแล้ว บางคนคิดว่าจีเอ็มโอคือสารปนเปื้อนที่มีอันตราย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะจี เอ็ม โอ ไม่ใช่สารปนเปื้อนและไม่ใช่สารเคมี แต่จี เอ็ม โอนั้นคือ “สิ่งไม่มีชีวิต” ที่เป็นผลพวงจากการใช้เทคนิคทางเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของนักวิทยาศาสตร์ที่จะปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณสมบัติตามอย่างที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น การดัดแปรพันธุกรรมของมะเขือเทศให้มีลักษณะการสุกงอมที่ช้าลงกว่าปรกติ การดัดแปลงพันธุกรรมของถั่วเหลืองให้มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูงซึ่งให้ประโยชน์ต่อมนุษย์สูง เป็นต้น ดังนั้นการใช้คำว่า “ปนเปื้อน” ในกรณีนี้จึงไม่ถูกต้อง เพราะ ”ปนเปื้อน” มีความหมายในลักษณะที่ไม่ต้องการให้มี เช่นไม่ต้องการให้อาหารมีการปนเปิ้อนของสารปรอทหรือสารหนูปนเปื้อนในอาหารเป็นต้น ดังนั้น จีเอ็มโอไม่ใช่สารปนเปื้อนแน่นอน


ตัวอย่างพืชดัดแปลงพันธุกรรม


วอลนัท หลังจากที่ทำการตัดต่ออะไรสักอย่างทางพันธุกรรมแล้ว จึงทำให้เม็ดวอลนัทนั้นมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นคือ


1.ทนทานต่อโรค

สตรอเบอรี่ การตัดต่อทางพันธุกรรม (GMO) ส่งผลให้สตรอเบอรี่

1.เน่าช้าลง ทำให้สะดวกต่อการขนส่งมากยิ่งขึ้น

2.เพิ่มสารอาหาร


แอปเปิล ผลของการตัดต่อทางพันธุกรรมที่มีต่อแอปเปิลคือ

1.ทำให้ความสดและความกรอบของผลแอปเปิลมีระยะเวลานานขึ้น (delay ripening)

2.ทนต่อแมลงต่างๆ ที่เป็นศัตรูพืช


 มะเขือเทศ ลักษณะที่ดีขึ้นของมะเขือเทศ หลังจากที่ทำการตัดต่อทางพันธุกรรมแล้วมีดังนี้

1.ทนทานต่อโรคมากขึ้น

2.เพิ่มความแข็งของเนื้อมะเขือเทศมากขึ้น ทำให้ลดปัญหาผลผลิตเสียหายขณะขนส่ง

3.ผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยวจะเกิดการเน่าเสียช้าลง


ข้าวโพด นับว่าเป็นพืชทางเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่เรานำมาทำการตัดต่อทางพันธุกรรม โดยการตัดต่อยีนของแบคทีเรียที่ชื่อว่า Bacillus thuringiensis เข้าไปในยีนของเมล็ดข้าวโพด จึงทำให้ข้าวโพดที่ได้ทำการตัดต่อทางพันธุกรรมนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถสร้างสารพิษต่อแมลงที่เป็นศัตรูพืชได้ โดยเมื่อแมลงมากัดกินข้าวโพดนี้แมลงก็จะตาย


มันฝรั่ง (Potato) เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการตัดต่อทางพันธุกรรมเช่นเดียวกันกับข้าวโพด โดยใช้การตัดต่อยีนของแบคทีเรียที่ชื่อว่าBacillus thuringiensis เข้าไปในยีนของมันฝรั่ง ทำให้มันฝรั่งที่ได้รับการตัดต่อทางพันธุกรรมแล้วมีคุณค่าทางสารอาหารเพิ่มขึ้น (เพิ่มปริมาณโปรตีน) และในบางชนิดยังสามารถผลิตวัคซีนที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์อีกด้วย


ถั่วเหลือง มีการดัดแปลงพันธุกรรมถั่วเหลืองเพื่อให้มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถทนต่อสารเคมีกำจัดวัชพืชชนิด Roundup ได้ดีกว่าถั่วเหลืองทั่วไป ทำให้ผู้ปลูกสามารถใช้สาเครมีชนิด Roundup ได้มากขึ้น มีผลทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้นตามไปด้วย

ฝ้าย เป็นฝ้ายที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรมโดยใส่ยีนของแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis var. kurataki (B.t.k) เข้าไปในโครโมโซมของต้นฝ้าย ทำให้สามารถผลิตโปรตีน Cry 1A ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าหนอนที่เป็นศัตรูฝ้ายได้

มะละกอ มีการตัดต่อพันธุกรรมมะละกอ เพื่อให้สามารถต้านทานโรคห่าได้ และมีเมล็ดน้อยลง

  Genetically modified crops. The plants through genetic engineering. In order to qualify, or specific features you want, such as resistance to insect pests. Durable environmentally unsuitable. Or with the addition of substances such as vitamins, nutrition or some kind of protein molecular plant is genetically modified organisms genetically modified or GM O (GMOs - Genetically Modified Organisms) type.


Genetically modified crops, with GM's safety considered in safety to consumers and / or the environment will have to go through many trials to obtain reliable scientific data. Because each species diversity and genetic roles. Environment and to. And before any manufacturer to bring in a GM crop in each type of GM to the consumer. Must be evaluated for the safety of government agencies involved. This requires experts in each discipline to ensure that the product is safe and comparable with similar products already exist in the natural state. Thus, it held that produce thousands of product GM brought in all kinds of food. Or planted for commercial distribution in the safe. Some people think that GM is dangerous contaminants. That is certainly not because of GM contamination in non-chemical and non-GM, but it is in "the life" as a result of the use of modern biotechnology techniques. As a result of the willingness of scientists to breeding to meet the demand. For example. Genetic modification of a ripe tomato with a slower than normal. Genetic modification of soybean fat unsaturated highly beneficial to human height, etc. So the use of the word "contamination" in this case is invalid because "contamination" has the meaning in a way that does not want to. a. I'd like to have a mixed diet of fruit or mercury or arsenic contamination of non-GMO food, etc., so that contaminants.



For example, genetically modified crops.

Walnuts after editing something already genetically. As a result, the grain Walnut is better qualified.


1. Resistant to disease.

All the strawberries genetic modification (GMO), the strawberry berries.

1. Decay slows down even more, making it easy to transport.

2 Added nutrients.

Apple result of the genetic modification on the apple is.

1. The freshness and crispness of the apple with a longer duration (delay ripening).

2. Resistant to insects. A pest.

The improvement of tomato ketchup. After genetic modification is as follows.

1. Resistant to the disease.

2. Increase the hardness of the tomato flesh. Minimizes product damage in transit.

3. Yield of the harvest will slow down spoilage.

Corn plant is the economic one, we adopt the genetic modification. By the genes of bacteria called Bacillus thuringiensis. Genes into corn. As a result, the genetic modification of corn has a unique feature that can be toxic to insect pests have. By insects to eat corn on the insect will die.

Potato (Potato) is a crop with genetic modification, as well as corn. Using the genes of bacteria called Bacillus. thuringiensis. Gene into the potatoes. The potatoes have been genetic modification has increased the value of nutrients. (A protein) and in some types of vaccines can also be useful to humans as well.

Soybeans are genetically modified soybeans to provide extra features. Able to tolerate the herbicide Roundup has than soybeans. Growers can make use of Roundup Craig has resulted in increased productivity and more as well.

Cotton is cotton that has been genetically modified by inserting genes of the bacterium Bacillus thuringiensis var. Kurataki (Btk) into the genome of transgenic cotton. Cry 1A protein, which makes it possible to have the ability to kill an enemy worm cotton.


Papaya is genetically engineered papaya. To have disease resistance. And have fewer seeds.



วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประเพณีวิ่งควาย

       ประเพณีวิ่งควาย เป็นงานประเพณีประจำจังหวัดชลบุรี เป็นหนึ่งในประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดชลบุรีที่มีการจัดมากว่า 100 ปีแล้ว ประเพณีวิ่งควาย เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 หรือก่อนออกพรรษา 1 วัน เพื่อเป็นการทำขวัญควายและให้ควายได้พักผ่อนหลังจากตรากตรำกับการงานในท้องนามายาวนาน นอกจากนี้ประเพณีวิ่งควายยังเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อควายที่เป็นสัตว์มีบุญคุณต่อชาวนาและคนไทยอีกทั้งยังเพื่อให้ชาวบ้านได้มีโอกาสพักผ่อนมาพบปะสังสรรค์กันในงานวิ่งควาย


ก็จะนำผลิตผลของตนบรรทุกเกวียนมาขายให้ชาวบ้านร้านตลาดไปพร้อมๆ กัน ต่างคนต่างก็ถือโอกาสมาพบปะสนทนากัน บ้างก็จูงควายเข้าเที่ยวตลาดจนกลายมาเป็นการแข่งขันวิ่งควายกันขึ้น และจากการที่ชาวไร่ชาวนาต่างก็พากันตกแต่งประดับประดาควายของตนอย่างสวยงามนี่เอง ทำให้เกิดการประกวดประชันความสวยงามของควายกันขึ้น พร้อมๆ ไปกับการแข่งขันวิ่งควาย

ปัจจุบัน ประเพณีวิ่งควายในเขตเทศบาลเมืองชลบุรี จะจัดในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 อำเภอบ้านบึงจัดในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตลาดหนองเขิน อำเภอบ้านบึง จัดในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 วัดดอนกลาง ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จัดวิ่งควายในวันทอดกฐินประจำปีของวัด  
        Traditional buffalo race. The annual festival of Chonburi. One of the unique heritage of the Province with more than 100 years old tradition of running buffalo. It is traditionally held every year on the day of the 14th lunar month or 11 days before the first round as compensation for cattle and buffalo to rest after toiling in the fields for a long time. The traditional buffalo race also expressed gratitude to the Buffalo Zoo are grateful to the farmers and Thailand as well as to provide recreational opportunities for residents to meet each other in the buff.

It is the brainchild of its freight wagons were sold to the locals shop at the same market, people had the opportunity to meet and discuss. I was led back to the Buffalo market and become a buffalo race each other up. And the farmers were bringing their beautifully decorated buffalo too. Make a beautiful buffalo contest championships are built concurrently with the running buffalo.

Current traditional buffalo race in Chonburi Municipality. Dinner will be held on the 14th day of the 11th month Banbung to 15 months in 11 markets in the waning days of the swamps dry Banbung one evening in the middle of the 11th Don Muang district pay for the running of the buffalo in the annual ceremony.

สถานที่ท่องเที่ยวของภูเก็ต

        หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด


หาดป่าตองถูกถล่มโดยคลื่นสึนามิจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ปัจจุบัน หาดป่าตองเป็นหนึ่งในหาดสำคัญที่ติดตั้งระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ มีการซ้อมอพยพและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ  
Patong from Phuket town 15 kilometers to the northwest is the most famous beach of Phuket. The beach is equipped with facilities such as hotels, restaurants, water sports, dive shops and other facilities for tourists. The beach has a length of over 4 km and a full range of amenities. Patong Beach is the most popular visitor.

Patong was hit by a tsunami in the Indian Ocean earthquake on December 26, 2547 Current Patong Beach is one of the installed tsunami warning system. And assistance with evacuation drills regularly.

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โรคกรดไหลย้อน ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม


Gastro-Esophageal Reflux Disease โรคกรดไหลย้อน ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
ลักษณะ นิสัยการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนนั้นสามารถส่งผลกับสุขภาพร่างกายได้ เหมือนกัน ด้วยชีวิตที่รีบเร่งของคนในปัจจุบัน ประกอบกับพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง และความเครียดจากเรื่องต่างๆ นำมาซึ่งปัญหาสุขภาพได้ อย่างเช่น ‘โรคกรดไหลย้อน' ที่เป็นภัยเงียบคุกคามคุณโดยรู้ตัว ซึ่งโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย แม้กระทั่งเด็กหรือสตรีมีครรภ์
stro-Esophageal Reflux Disease; GERD หรือ "โรคกรดไหลย้อน" กรดไหลย้อน คือภาวะที่มีกรด และน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจรวมไปถึงเอนไซม์เปบซินและน้ำดี ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ซึ่งหลอดอาหารเป็นอวัยวะที่ไม่ทนต่อกรด จึงทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร โดยปกติแล้วหลอดอาหารจะมีการบีบตัวไล่อาหารลงสู่ด้านล่าง และหูรูดจะทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนของน้ำย่อย กรด หรืออาหาร ไม่ให้ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร แต่ในบางคนนั้นหูรูดส่วนนี้ทำงานได้น้อยลง จึงทำให้มีกรดหรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาทำให้ผนังหลอดอาหารอักเสบ และการไหลย้อนของกรด ถ้ามีมาก อาจไหลออกนอกหลอดอาหาร อาจทำให้มีผลต่อกล่องเสียง ลำคอ หรือปอดได้ ถึงแม้โรคกรดไหลย้อนจะไม่ใช่โรคก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตดังกล่าวข้าง ต้น แต่หากละเลยไม่ทำการรักษา อาจทำให้เรื้อรัง มีความเสี่ยงให้กลายเป็น มะเร็งหลอดอาหารได้
อาการและสัญญาณที่เตือนว่า "โรคกรดไหลย้อน" มาเยือน ก็คือ ปวดแสบร้อนบริเวณกลางอก และหรือบริเวณลิ้นปี่ (heart burn), รู้สึกมีก้อนอยู่ในคอ, กลืนลำบากหรือกลืนแล้วเจ็บ, เจ็บคอหรือแสบลิ้นเรื้อรังโดยเฉพาะในตอนเช้า หรือไอแห้ง, รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดีหรือมีรสเปรี้ยวของกรดในคอหรือปาก, มีเสมหะอยู่ในคอหรือระคายคอตลอดเวลา เรอบ่อย คลื่นไส้ และรู้สึกจุกแน่นอยู่ในหน้าอก คล้ายอาหารไม่ย่อย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะรุนแรงขึ้นหรือเกิดได้บ่อยขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเครียดและการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ดังนั้นเราจึงควรสังเกตตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้บ่อยๆ หรือไม่ ถ้ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยควรรีบไปปรึกษาแพทย์จะดีกว่า
ส่วนปัจจัย ที่ทำให้เกิดหรือกระตุ้นโรคนี้ก็มีด้วยกันหลายอย่าง เช่น พฤติกรรมการกิน หรือกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง อย่าง กินอาหารมื้อหนักตอนกลางคืนแล้วนอน กินอาหารไม่ตรงเวลา, การสวมเสื้อผ้าที่รวดรูปจนเกินไป, สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์, ท่านอนที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งควรนอนศีรษะเสมอหรือต่ำกว่าลำตัว, ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs หรือโรค Hiatus hernia (เป็นโรคที่เกิดจากกระเพาะอาหารส่วนต้นเข้าไปในกระบังลม) , การมีน้ำหนักมากจนเกินไปด้วย และรวมความเครียดด้วย ฯลฯ
แม้ว่าโรค นี้จะไม่ใช่โรคที่มีอันตรายถึงชีวิตแต่ก็สามารถทำให้คุณภาพชีวิตที่ดีของเรา ลดลงได้ จากการศึกษาในประเทศอเมริกา พบว่า 60% ของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนมีอาการปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง โดย 75% นอนหลับยาก 51% รบกวนการทำงาน และอีก 40% ออกกำลังกายไม่ได้ หากคุณละเลยไม่ดูแลรักษา ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิด "มะเร็งหลอดอาหาร" ได้ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ควบคุมจัดการความเครียด, พฤติกรรมการรับประทานอาหาร จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะทำเป็นสิ่งแรก เมื่อรู้สึกว่ากรดไหลย้อน ให้ดื่มน้ำ กลืนน้ำลาย หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อช่วยสลายกรด หรือหากจำเป็นต้องรับประทานยาควรเลือกทานยาที่สามารถป้องกันการไหลย้อน ของกรด น้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ถ้าหากมีอาการมากหรือบ่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม

stro-Esophageal Reflux Disease; GERD or "acid reflux disease" is a condition in which the acid reflux. And pepsin in the stomach. The enzyme, which may include the city and the gall. Reflux up the esophagus. The esophagus is the organ that is resistant to acid. It causes inflammation of the esophagus. Normally, the esophagus will be forced to chase food down to the bottom. Sphincter function and prevent reflux of gastric acid and food to flow back up the esophagus. But in some parts of the sphincter to work less. It has acid reflux or digestive inflammation to the esophageal wall. If you have acid reflux and it may flow out of the esophagus. May affect the larynx, throat or lung disease even if acid reflux disease does not cause death, but if the above treatment fails. May cause chronic Risk to become Esophageal cancer is.

Symptoms and warning signs. "Reflux" visitor center is a burning pain. Or the Lignpie (heart burn), feel a lump in the throat, difficulty swallowing, or swallowing the pain, sore throat, or burning tongue, chronic, especially in the morning or dry cough, feeling like a bitter taste of bile and sour. of acid in the throat or mouth, or throat mucus in throat irritation, nausea, frequent burping all the time and feel tight in the chest malformation. Similar to indigestion. That these symptoms may be more severe or happen more often. Partly as a result of stress and modern lifestyle. Therefore, we should note that there are a lot of these symptoms, or if any of these symptoms occur, it should be better to consult a doctor.

The factors that cause or encourage diseases such as it has many different eating habits. Or eat the wrong way to eat a heavy meal at night to sleep. Not eating on time, wear clothing that is too fast, smoking, drinking alcohol, he or incorrect. Which should always lie head or lower body, certain drugs such as aspirin NSAIDs or disease groups Hiatus hernia (a disease of the stomach above the diaphragm), the weight is too much. And stress etc..

In this phase, the patient will have a poor quality of life by 75% to 51% of sleep is interfering with the work, and another 40% did not exercise. If you neglect maintenance. It is prone to. "Esophageal cancer", so to modify the behavior stress management, eating behaviors. Therefore, it is necessary that it should be the first thing. When you feel that acid reflux swallow or chew gum, drink water. To remove some of the acid. If you need a drug that can be administered to prevent reflux of gastric acid in the stomach. If the symptoms are very frequent. It should go to the doctor for further testing.



โยคะเพิ่มความสูง


อาหาร อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คุณมีความสูงที่เพิ่มขึ้นได้แต่การออกกำลังกายใน ท่วงท่าที่ถูกต้องก็สามารถช่วยได้คุณมีความสูงได้มากขึ้นเช่นกัน อาทิตย์นี้เราขอแนะนำท่าโยคะ 3 ท่าง่ายๆ ที่สามารถเพิ่มความสูงของคุณได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเงินแพงๆ สามารถทำได้ที่บ้าน นำไปบอกต่อหรือสอนลูกสาววัยกำลังโตก็ได้เช่นกัน ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย


1. ท่าสุขอาสนะ
• เริ่มจากการนั่งขัดสมาธิกับพื้น หงายฝ่ามือทั้งสองข้างบนเข่า กำหนดลมหายใจเข้า-ออกให้ลึกๆ มีความสัมพันธ์กัน ทำแบบนี้อย่างน้อย 5 ครั้ง
• ยกแขนขึ้นให้เหนือศีรษะพร้อมๆ กับสูดลมหายใจเข้า-ออก แล้วค่อยๆ วางแขนลงช้าๆ ในขณะที่ปลอดลมหายใจออกช้าๆ
• ทำซ้ำท่าเดิมแบบนี้ 5-7 ครั้งค่ะ

2. ท่าสามเหลี่ยม
• ยืนแยกขาห่างจากกันประมาณ 90-120 ซม. ให้เท้าทั้งสองข้างขนานกัน
• หันเท้าซ้ายออกจากลำตัว 90 องศา และหันเท้าขวาเข้าหาลำตัว 45 องศาค่ะ
• หายใจเข้าพร้อมกับยกแขนขึ้นจากข้างลำตัวให้ขนานกับพื้น
• หายใจออกพร้อมแนบศรีษะให้ติดกับต้นแขนซ้าย ยืดขาซ้ายให้ตรง หายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ เอนตัวไปทางด้านซ้ายจนสุด
• ยืดแขนซ้ายมาจับข้อเท้าซ้ายและยกแขนขวาขึ้นตั้งตรง แหงนศีรษะมองมือขวาและสูดลมหายใจเข้า-ออก ลึกๆ หลายๆ ครั้ง และทำท่าเดิมทางด้านขวาเช่นกันค่ะ
 
3. ท่าแมว
• ทำท่าคุกเข่าโดยให้หัวเข่าทั้งสองข้างอยู่ห่างกัน วางมือสองข้างให้ตรงกับหัวไหล่
• สูดลมหายใจเข้าพร้อมยกสะโพกขึ้น เอนตัวและแหงนหน้าขึ้นให้สุด
• ค่อยๆ ยืดตัวตรง และโก่งตัวขึ้น พร้อมกับก้มศีรษะมองลง
• กลับสู่ท่าปกติ และทำแบบนี้ซ้ำท่าเดิมหลายๆ ครั้งค่ะ

ทำ 3 ท่านี้อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันแค่นี้ก็สามารถเพิ่มความสูงให้กับคุณสาวๆ ได้เล็กน้อยพอประมาณแล้วค่ะ


วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วิตามินอี


วิตามินอี เป็นวิตามินที่ช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายหลายระบบ และเป็นแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยให้เซลล์ต่างๆ รอดอันตรายจากท็อกซิน ช่วยชะลอความแก่ได้




ประโยชน์
 
เป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ คือทำให้เกิดการเผาผลาญโดยมีออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี


เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือด ต้านการแข็งตัวของเลือด ลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด และลดอัตราเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ

บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมาก

ช่วยในระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อให้ทำงานได้ตามปกติ

ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้หายเร็วขึ้น

ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้นและไม่อ่อนเพลียง่าย

แหล่งวิตามินอีวิตามินอีมีมากในน้ำมันจากธัญพืชและถั่วประเภทเปลือกแข็ง การเก็บรักษาให้วิตามินอีควรเก็บให้พ้นจากความร้อนแสงแดด รวมทั้งออกซิเจนในอากาศ การขัดสี การบด จะทำให้ญพืชสูญเสียวิตามินอีไปจำนวนมาก


ร่างกายคนเราต้องการวิตามินอีอยู่ที่วันละ 10-15 IU
แหล่งวิตามินในธรรมชาติ จำนวน ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ

น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำหนัก 100 กรัม 40 IU

น้ำมันดอกคำฝอย น้ำหนัก 100 กรัม 31.5 IU

น้ำมันข้าวโพด น้ำหนัก 100 กรัม 19 IU

น้ำมันถั่วเหลือง น้ำหนัก 100 กรัม 14.4 IU

กะหล่ำปลี น้ำหนัก 100 กรัม 6.4 IU

จมูกข้าวสาลี 1 ช้อนโต๊ะ 11-14 IU

เมล็ดทานตะวัน น้ำหนัก 100 กรัม 25 IU

ถั่วเปลือกแข็งประเภทอัลมอนด์ น้ำหนัก 100 กรัม 13.5 IU

มันเทศ น้ำหนัก 100 กรัม 6 IU

เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำหนัก 100 กรัม 4.6 IU

อะโวคาโด (เฉพาะเนื้อ) น้ำหนัก 100 กรัม 4.5 IU

ปวยเล้ง น้ำหนัก 100 กรัม 3 IU


อันตรายจากการขาดวิตามินอี
 
โรคหัวใจกำเริบ วิตามินอีมีหน้าที่ในการจับสารที่เข้ามาทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขาดวิตามินอีทำให้สารเหล่านี้เข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันในเลือดทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ เสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ก่อให้เกิดก้อนเลือดและที่สุดทำให้เกิดโรคหัวใจกำเริบได้


ระบบประสาทมีปัญหา ในกรณีของคนที่ร่างกายมีปัญหาในการดูดซึมไขมันและในเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด การได้รับวิตามินอีต่ำกว่าปริมาณที่กำหนดอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทและเป็นโรคโลหิตจางได้ เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายถูกทำลาย

อันตรายจากการได้รับวิตามินอีมากเกินไป หรือรับประทานเป็นประจำการได้รับวิตามินอีมากเกินไปจะทำให้รู้สึกปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนล้า ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย มีอาการอึดอัดในช่องท้อง ท้องร่วง หากร่างกายได้รับวิตามินอีสูงมากอาจขัดขวางการดูดซึมวิตามินเอซึ่งส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า อย่างไรก็ตามผลการศึกษาระยะยาวในเพศชายวัยกลางคน กลับพบว่า การรับประทานวิตามิน อี (400 IU วันเว้นวัน) หรือวิตามิน ซี (500 mg ต่อวัน) ไม่ช่วยให้ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากหรือมะเร็งชนิดอื่นๆ ลดลงแต่อย่างใด Physicians’ Health Study II Randomized Controlled Trial มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพของวิตามิน อี, ซี, และวิตามินรวม ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคตา(ที่สัมพันธ์กับอายุ) รวมถึงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น การศึกษานี้เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2541 และสิ้นสุดลงเมื่อสิงหาคม พ.ศ. 2551 (เฉพาะในส่วนของวิตามิน อี และ ซี) มีผู้เข้าร่วมในการศึกษาคือแพทย์ผู้ชาย ในประเทศสหรัฐอเมริกา อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 14,641 คน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ กลุ่มที่ได้รับวิตามิน อี 400 IU วันเว้นวัน (n=3,659) กลุ่มที่ได้รับวิตามิน ซี 500 mg วันละครั้ง (n=3,673) กลุ่มที่ได้รับวิตามินเสริมทั้งสองชนิด (n=3,656) และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (n=3,653) จากการติดตามผลระยะยาวเป็นเวลา 8 ปี (117,711 person-years) ตรวจพบมะเร็งโดยรวมทุกชนิด 1,943 ราย แต่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก 1,008 ราย มีผู้เสียชีวิตระหว่างการศึกษา 1,661 ราย ในกลุ่มที่ได้รับวิตามิน อี และยาหลอก อัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก เท่ากับ 9.1 และ 9.5 [Hazard Ratio=0.97; 95%CI 0.85-1.09; P=.41] ส่วนอัตราการเกิดมะเร็งโดยรวมเท่ากับ 17.8 และ 17.3 ต่อ 1,000 person-years ตามลำดับ [Hazard Ratio=1.04; 95%CI 0.95-1.13; P=.41] ในกลุ่มที่ได้รับวิตามิน ซี เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก พบว่า อัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก เท่ากับ 9.4 และ 9.2 [Hazard Ratio=1.02; 95%CI 0.90-1.15; P=.80] ส่วนอัตราการเกิดมะเร็งโดยรวมเท่ากับ 17.6 และ 17.5 ต่อ 1,000 person-years ตามลำดับ [Hazard Ratio=1.01; 95%CI 0.92-1.10; P=.86] นอกจากนี้ ยังพบว่าการรับประทานวิตามิน อี หรือ ซี ไม่เกี่ยวข้องกันกับการเกิดมะเร็งเฉพาะที่ (site-specific cancers) เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และไม่มีผลต่ออาการข้างเคียงต่างๆ เช่น minor bleeding, GI symptoms, fatigue, drowsiness อย่างมีนัยสำคัญ




Vitamin E refers to a group of eight fat-soluble compounds that include both tocopherols and tocotrienols There are many different forms of vitamin E, of which γ-tocopherol is the most common in the North American diet. γ-Tocopherol can be found in corn oil, soybean oil, margarine and dressings. α-Tocopherol, the most biologically active form of vitamin E, is the second most common form of vitamin E in the North American diet. This variant of vitamin E can be found most abundantly in wheat germ oil, sunflower, and safflower oils.It is a fat-soluble antioxidant that stops the production of reactive oxygen species formed when fat undergoes oxidation


Health effectsWhile it was initially hoped that vitamin E supplementation would have a positive effect on health, research has not supported these conclusions. Vitamin E does not decrease mortality in adults, even at large doses, and may slightly increase it. It does not improve blood sugar control in an unselected group of people with diabetes mellitus or decrease the risk of stroke. Daily supplementation of vitamin E does not decrease the risk of prostate cancer and may increase it. Studies on its role in age related macular degeneration are ongoing as, even though it is of a combination of dietary antioxidants used to treat the condition, it may increase the risk. A Japanese study in 2012 found that vitamin E may contribute to osteoporosis





DeficiencyMain article: Vitamin E deficiency

Vitamin E deficiency can cause:



spinocerebellar ataxia[
myopathies
peripheral neuropathy
ataxia
skeletal myopathy
retinopathy
impairment of the immune response
erythrocyte hemolysis